พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 3. มังคลพุทธวงศ์
[35] เมทนีดลงามวิจิตรด้วยพระขีณาสพ ผู้ปราศจากมลทิน
เมทนีนั้นงามเหมือนท้องฟ้าที่วิจิตรไปด้วยหมู่ดาว
[36] พระอรหันต์ผู้ประเสริฐแม้เหล่านั้น
มีคุณหาประมาณมิได้ ไม่กำเริบ หาผู้กระทบกระทั่งได้ยาก
ท่านผู้มียศเหล่านั้น แสดงประดุจสายฟ้าฟาด ปรินิพพานแล้ว
[37] ฤทธิ์ของพระชินเจ้าไม่มีที่เปรียบ
สมาธิอันปัญญาอบรมดีแล้ว
ทุกอย่างอันตรธานไปพร้อมกันแล้ว
สังขารทั้งปวงเป็นสภาพว่างเปล่าหนอ
[38] พระพุทธเจ้าพระนามว่าโกณฑัญญะ ผู้ทรงพระสิริ
เสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ นันทาราม
พระเจดีย์ของพระองค์สูง 7 โยชน์
ณ นันทารามนั้น ฉะนี้แล
โกณฑัญญพุทธวงศ์ที่ 2 จบ
3. มังคลพุทธวงศ์
ว่าด้วยพระประวัติของพระมังคลพุทธเจ้า
[1] สมัยต่อจากพระพุทธเจ้าพระนามว่าโกณฑัญญะ
ได้มีพระพุทธเจ้าพระนามว่ามังคละ ผู้ทรงเป็นผู้นำ
ทรงชูคบเพลิงคือพระธรรม กำจัดความมืดในโลก
[2] รัศมีของพระองค์ไม่มีที่เปรียบ
ยิ่งกว่าพระชินเจ้าองค์อื่น ๆ
ข่มรัศมีของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
รุ่งโรจน์ไปทั่วหมื่นจักรวาล
[3] แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ก็ทรงประกาศอริยสัจ 4 ที่ประเสริฐสุด
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 3. มังคลพุทธวงศ์
เทวดาและมนุษย์ต่างก็ได้ดื่มรสแห่งอริยสัจ
แล้วย่อมบรรเทาความมืดมนเสียได้
[4] เมื่อพระองค์ทรงบรรลุพระโพธิญาณอันไม่มีที่เปรียบแล้ว
ทรงแสดงธรรมครั้งแรก
เหล่าสัตว์ประมาณ 100,000 โกฏิ ได้บรรลุธรรมครั้งที่ 1
[5] พระพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรม
ที่ภพของเทวดาผู้เป็นจอมเทพ
ครั้งนั้น เทพประมาณ 100,000 โกฏิ
ได้บรรลุธรรมครั้งที่ 2
[6] ในกาลเมื่อพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าสุนันทะ
เสด็จเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงลั่นธรรมเภรี(กลองคือธรรม)
อันประเสริฐยอดเยี่ยม
[7] และครั้งนั้น บริวารของพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่าสุนันทะ
มีประมาณ 90 โกฏิ ทั้งหมดนั้น ไม่เหลือเลย
ได้บวชด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา
[8] พระพุทธเจ้าพระนามว่ามังคละ
ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ ได้มีการประชุมสาวก 3 ครั้ง
สาวกประมาณ 100,000 โกฏิ มาประชุมกัน เป็นครั้งที่ 1
[9] สาวกจำนวน 100,000 โกฏิ มาประชุมกัน เป็นครั้งที่ 2
สาวกจำนวน 90 โกฏิ มาประชุมกัน เป็นครั้งที่ 3
การประชุมครั้งนั้น ล้วนแต่พระสาวก
ผู้พระขีณาสพปราศจากมลทินเท่านั้น
[10] สมัยนั้น เราเป็นพราหมณ์มีนามว่าสุรุจิ
เป็นผู้คงแก่เรียน ทรงจำมนตร์ จบไตรเพท
